แนวรุกยังพอมีคนเล่นแทนในตำแหน่งปีกขวาได้ ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ โดมินิก โซโบสสไล หรือแม้แต่ โคดี กักโป และ ดิโอโก โชต้า ซึ่งส่วนใหญ่เล่นเป็นปีกซ้ายและกองหน้าเป้า ก็ยังพอถู ๆ ไถ ๆ ในตำแหน่งนี้ได้

แต่ตำแหน่งแบ็คขวาค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยนัดล่าสุด เจอร์เกน คลอปป์ ส่ง คอนอร์ แบรดลีย์ ลงในตำแหน่งตัวรับริมเส้นฝั่งขวา ซึ่งดาวรุ่งรายนี้ ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากในการดวลกับตัวหลักของ ฟูแล่ม แต่ก็ไม่รู้ว่านัดต่อ ๆ ไป เขายังจะเล่นได้แบบนัดเมื่อค่ำคืนได้หรือไม่

บางทีในนัดต่อ ๆ ไป กุนซือสายเลือดเยอรมัน อาจกลับไปใช้ โจ โกเมซ แทนตำแหน่งของ เทรนต์ และอาจจะให้โอกาสดาวรุ่งอีกคนอย่าง โอเว่น เบ็ค ลงสนามในตำแหน่งแบ็คซ้ายก็เป็นได้

ผมสมมติว่า ‘ทัพแฟโรห์’ ของ ‘บังโม’ เกิดผ่านเข้าไปเล่นถึงรอบไฟนอล แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ได้ ซึ่งตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2024 ก็แปลว่า ซาลาห์ หรือรวม เทรนต์ ไปด้วยหากยังไม่หายเจ็บ จะไม่มีสิทธิ์ช่วย ‘หงส์แดง’ ตั้ง 5 นัดรวมทุกรายการ

ไล่ตั้งแต่บุกไปเยือน บอร์นมัธ ใน พรีเมียร์ลีก วีคหน้า และ 3 วันต่อมาก็ต้องแข่งรอบรองฯ ลีกคัพ เลก 2 ซึ่งต้องออกไปเยือน ฟูแล่ม จากนั้นมีศึก บิ๊กแมตช์ ในลีก 2 นัดติดต่อกันกับ ‘เดอะ บลูส์’ และ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ รออยู่ และจบด้วยการเปิดบ้านเจอกับ เบิร์นลีย์

การหายไปของ 2 นักเตะกราบขวา เรียกได้ว่าเจอโปรแกรมหนักเอาเรื่องเลย เพราะฟอร์มช่วงหลังของ ‘เดอะ เชอร์รีส์’ ค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว ส่วนการดวลกับ มาร์โก ซิลวา นี่เหนื่อยตลอด ยิ่ง เชลซี และ อาร์เซนอล ไม่ต้องพูดเลย งานหินแน่ ๆ แต่นัดกับ เบิร์นลีย์ ผมว่าสบาย ๆ

ผมภาวนาให้ ลิเวอร์พูล ผ่านช่วง 5 นัดนี้ไปได้ แต่อาจจะเหนื่อยมากขึ้นอีกนิดชนิดหืดขึ้นคอ ซึ่งอาจมีหลุดเสมอในนัดกับ เชลซี ไม่ก็ อาร์เซนอล หรือทั้ง 2 เกมเลยก็ได้ แต่หากเก็บชัยได้ทั้งหมด ‘เรด แมชชีน’ จะมีลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปยาว ๆ ถึงช่วงนัดสุดท้ายของซีซั่น และเข้าชิง ลีกคัพ ได้แน่นอน